--Advertisement--

.
อาหารรสเด็ดรายทาง
ที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

ตะลุยกรุงโซล
อาหารรสเด็ดรายทาง

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

สถานที่ท่องเที่ยวแสนโรแมนติก 10 แห่งที่คู่รักทั้งหลายควรไป

10 สถานที่ท่องเที่ยวที่คู่รักทุกคนควรจะไป

สถานที่ที่คู่รักทั้งหลายควรไปมากที่สุดในโลกเนื่องในโอกาสต่างๆกับคนพิเศษของตน สถานที่เหล่านี้จะมีความสวยงามและความโรแมนติกสุดๆในตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ใครที่กำลังมองหาสถานที่โรแมนติกเพื่อพาคนรู้ใจไปเที่ยวอยู่ละก็ เราขอแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่สุดแสนจะโรแมนติกสำหรับคู่รักทั้งหลาย เพื่อใช้ในการตัดสินใจ สถานที่เหล่านี้มีอะไรบ้างนั้นขอเชิญรับชมได้เลยจ้า

1. มัลดีฟส์, สาธารณรัฐมัลดีฟส์
ที่เกาะแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำหรับคนที่ต้องการความสงบสุขเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงและที่สำคัญคือมีความสะอาดและสวยงามเป็นอย่างมากจนได้รับฉายาว่า ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย และที่นี้ยังมีรีสอร์ทสำหรับเป็นที่พัก 1 ที่ / 1 เกาะเท่านั้น ที่นี้จะเต็มไปด้วยน้ำทะเลสีเขียวสดใสสวยงามให้เราสามารถลงไปดำน้ำได้ตลอดเวลา และประการังที่นี้สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยล่ะ ใครที่มาแล้วไม่ได้ดำน้ำเยี่ยมชมที่นี้ไม่อาจจะเรียกว่ามาถึงที่นี้แล้วได้ ต้องลงไปดูว่าให้เห็นถึงความสวยงามของทะเลแห่งนี้ด้วยตาตัวเองแล้วจะไม่เสียดายเวลาที่มาที่นี้เลย สำหรับคนหนุ่มสาวคู่รักทั้งหลายที่นี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่โรแมนติกที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ลองหาโอกาสสำคัญๆพาแฟนมาพักที่นี้ดูแล้วคุณจะรู้สึกรู้งี้มาเสียตั้งนานแล้ว

เกาะมัลดีฟส์ ภาพจาก www.holidaystotreasure.com

2. อิโซลา เบลลา, ประเทศอิตาลี
สถานที่สุดโรแมนติกแห่งนี้ ที่ดูแล้วที่นี้เต็มไปด้วยความรู้สึกของความรักพุ่งออกมาเลยทีเดียว อิโซลา เบลลาเป็นหมู่เกาะที่ลายล้มไปด้วยภูเขาเขียวชอุ่มที่แสนจะสวยงาม นอกจากนี้ยังมีปราสาทที่พระเจ้าการ์โลสที่ 3 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ภรรยาอันเป็นที่รักที่ได้รับการออกแบบและสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสุดอลังการ ที่นี้เรายังจะได้รับชมสวนที่สวยงามราวกับว่าได้เข้าไปอยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายเลยทีเดียว เมื่อรวมกับความสวยงามที่ปรากฏอยู่ใต้ท้องทะเลสีครามที่ใสสะอาดและบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามทั้งกลางวันกลางคืน รับรองไปว่าทริปการท่องเที่ยวของคุณกับแฟนจะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่แสนวิเศษอย่างแน่นอน

อิโซลา เบลลา ภาพจาก commons.wikimedia.org

3. ไจเปอร์, ประเทศอินเดีย
คู่รักทั้งหลายสามารถที่จะมาสัมผัสกับกลิ่นอายอารยธรรมของประเทศอินเดียได้อย่างชัดเจนที่นี่ ที่เมืองไจเปอร์ ในรัฐราชสถาน ของประเทศอินเดีย เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังแห่งสายลม, ฐานทัพนาฮาร์การ์ และฐานทัพไจกราห์ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นพระราชวังประจำเมือง ที่มาพร้อมประตูนกยูงอันโด่งดังและเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะในตัว ที่เหมาะแก่การพาคู่รักหรือคนพิเศษของคุณได้มาชมสถานที่ที่แสนจะสวยงามแห่งนี้

ไจเปอร์ ภาพจาก http://travel.kapook.com

4. ทัชมาฮาล, ประเทศอินเดีย
สถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะโรแมนติกแห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรักอันเป็นนิรันดร์ของเจ้าของผู้สร้างที่รู้สึกได้เมื่อมาเยือนถึงที่ เพราะมันสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักระหว่างพระเจ้าชาห์มาฮานที่มีต่อพระมเหสีมุมตัส โดยกล่าวกันว่าก่อนจะสิ้นพระชนม์ พระเจ้าชาห์มาฮานจะทอดพระเนตรมองมันด้วยความทุกข์ระทมอยู่ทุกวัน ซึ่งกว่าจะเป็นสิ่งสวยงามได้ขนาดนี้ ก็ต้องใช้เวลากว่า 20 ปีเลยทีเดียว การได้เดินชมปราสาทหินอ่อนสีขาวนวล ท่ามกลางสายน้ำทอดยาวนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกเหมาะกับคู่รักที่อยากจะอยู่ในสถานที่ที่สุดแสนโรแมนติกกับคู่รักของตนเป็นอย่างยิ่ง

ทัชมาฮาล ภาพจาก www.indyatour.com

5. ถ้ำหวงหลง, ประเทศจีน
ถ้ำแห่งแสงที่สวยงามที่สรรค์สร้างโดยธรรมชาติโดยแท้ ณ ถ้ำหวงหลงของประเทศจีน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ฮังดง และ ชุ่ยดง ซึ่งก็คือส่วนที่ไม่มีน้ำและส่วนที่มีน้ำอยู่ภายในนั่นเอง โดยแร่ธาตุต่าง ๆ ภายในถ้ำทำให้หินพวกนี้พอถูกแสงกระทบเกิดเป็นสีสันที่หลากหลาย (ดูจากในภาพแล้วไม่ใช่แสงไฟจากหลอดแต่เป็นแสงที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ) หินงอกหินย้อยในถ้ำจึงงดงามวิจิตรราวกับถูกวาดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีสัตว์ที่ไม่เป็นอันตรายอาศัยอยู่ เหมาะกับคนรักธรรมชาติ สำหรับใครที่ชอบธรรมชาติในถ้ำที่สวยงามแบบนี้สามารถพาคนพิเศษของคุณมาเยี่ยมชมที่นี้ได้ จัดได้ว่าถ้ำหวงหลงเป็นสถานที่แห่งความโรแมนติกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในโลกนี้แบบไม่อายใครเลย

ถ้ำหวงหลง ภาพจาก www.synotrip.com

6. น้ำตกไนแองการา, ประเทศแคนาดา
ดูเหมือนที่น้ำตกไนแองการาจะมีบรรยากาศของความรักวนเวียนอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเสริมเติมแต่งอะไรเลย จากน้ำตกที่กระทบบนโขดหินเกิดเป็นเสียงไพเราะแทนเสียงดนตรี และม่านน้ำตกที่สวยยิ่งกว่าสถาปัตยกรรมใด ๆ ก็มากพอจะเป็นสถานที่สำหรับคู่รักแล้ว และถ้าที่กล่าวมายังไม่พอ ที่นี่ยังมีบริการให้เข้าไปชมถ้ำภายในม่านน้ำตกอันงดงามผ่านลิฟต์อีกด้วย

น้ำตกไนแองการา ภาพจาก worldmostbeautifulplaces.com

7. หอไอเฟล, ประเทศฝรั่งเศส
ในปัจจุบันนี้คงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักหอไอเฟลนะครับ หอคอยที่สูงที่สุดในโลกตั้งอยู่ที่ประเทศศรั่งเศษ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนหอคอยจะเป็นตัวช่วยให้เรารู้สึกสดชื่อนผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในตอนกลางคืนแล้วจะเป็นวิวที่สวยงามมากที่สุด ใครที่ได้ไปเที่ยวที่นี้กับคนรักแล้วรับรองว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มซะอีก ที่ด้านในจะมีลิฟท์เพื่อส่งเราขึ้นไปบนยอดหอไอเฟลมีราคาอยู่ที่

- 13 เหรียญยูโร (ราวๆ 520 บาท) สำหรับวัย 12-24 ปี
- 14.50 เหรียญยูโร (580 บาท) สำหรับผู้ใหญ่
- 10 เหรียญยูโร (400 บาท) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 หรือคนพิการ

หอไอเฟล ภาพจาก www.flickr.com

8. กรุงเวนิส, ประเทศอิตาลี
เมืองแห่งสายน้ำ ที่กรุงเวนิสนี้คุณสามารถที่จะนั่งเรือกอนโดล่าล่องไปตามสายน้ำเรื่อยๆอย่างใจเย็นเพื่อชมเมืองที่แสนสวยงามท่ามกลางทะเลสีครามที่แสนจะโรแมนติกนี้กับคนพิเศษของคุณได้เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกและน่าจดจำมากที่สุดที่หนึ่งในโลก และไม่ต้องกังวลว่าจะมีรถวิ่งผ่านไปมาให้เป็นที่กวนใจ เพราะที่นี่เดินทางด้วยการใช้เรือล่องผ่านลำน้ำที่เงียบสงบ ปราศจากความวุ่นวาย นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมโดดเด่น เช่น ปราสาทและโบสถ์ยังเป็นที่ ๆ ไม่ควรพลาดชมด้วยเช่นกัน อย่าลืมพาคนสุดพิเศษของคุณมาที่นี้เพื่อเพิ่มความสุขให้กับคนที่คุณรักกันนะจ๊ะ

เมืองเวนิส ภาพจาก http://travel.kapook.com

9. เกาะคาไว ฮาวาย
หมู่เกาะที่ลายล้อมไปด้วยทะเลสีครามที่แสนจะสวยสดงดงาม เรียกได้ว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ฮาวายเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในหมู่เกาะฮาวายอันโด่งดังแห่งนี้ มีวิวสวยไม่แพ้ที่ไหน ๆ แถมคุณยังจะได้เพลิดเพลินกับระบำพื้นเมือง รวมถึงอาหารที่โดดเด่นไม่เหมือนใครของที่นี่อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นยังโรแมนติกเหมาะสำหรับบรรดาคู่รักอีกต่างหาก อ้อ...นอกจากทะเลแล้ว วิวป่าเขาอันสมบูรณ์ก็เป็นความสวยงามที่ไม่ควรละเลยด้วยเหมือนกัน มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ฮันนีมูนยอดนิยมที่มักจะมีผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะเหล่าคู่รักคู่หนุ่มสาวทั้งหลายต่างก็มักจะพากันมาเที่ยวและพักที่นี้กันเป็นจำนวนมาก

หมูเกาะฮาวาย ภาพจาก www.wallsave.com

10. ซานโตรินี, ประเทศกรีซ
ใครที่อยากจะรู้ว่าการได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกในสถานที่ที่แสนจะโรแมนติกนั้นมันจะรู้สึกวิเศษมากขนาดไหน ซานโตรินีคือที่ที่เราขอแนะนำให้คุณมา ที่นี้ตั้งอยู่บนเกาะที่สวยงามทางตอนใต้ของประเทศกรีซ อันเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโดดเด่นสไตล์ไซดลาดิกแบบกรีกโบราณ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี้จะมีจุดมุ่งหมายหลักก็คือการได้มานั่งปิกนิกชมแสงพระอาทิตย์ตกนั่นเอง และถ้าใครอยากชมแบบใกล้ชิด ที่นี่ยังมีบริการให้เช่าเรือไปชมวิวตะวันตกดินกลางน่านน้ำสุดสวีทได้อีกด้วย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสุดหรูและท้องทะเลที่สวยงามสดใสสะอาดตา พร้อมกับบรรยากาศโดยรอบที่แสนจะเป็นใจ เรียกได้ว่าสวีทกันแบบสุดๆไปเลยหากได้มาที่นี้

ซานโตรินี ภาพจาก commons.wikimedia.org

นี้คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่สุดแสนจะโรแมนติกมากๆสำหรับคู่หนุ่มสาวทั้งหลายที่ต้องการจะพาคนพิเศษของตนไปเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆกันสองคน สถานที่เหล่านี้เหมาะเป็นอย่างมากที่จะใช้เป็นที่สำหรับฮันนี่มูน , วันครบรอบแต่งงาน , วันครบรอบที่เจอกันครั้งแรก , วันวาเลนไทน์ และวันสำคัญต่างๆของคู่รักทั้งหลาย ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สุดแสนจะโรแมนติกและสวยงามมากๆแล้ว ยังมีที่พักสุดหรูและอาหารที่แสนอร่อยและไม่เหมือนใครไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมชมกันเป็นจำนวนมากนี้ได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การมาพักผ่อนกับคนพิเศษของเราเป็นอย่างมาก อย่าลืมพาคนรู้ใจของคุณมาเที่ยวสถานที่โรแมนติกเหล่านี้เมื่อมีโอกาสกันนะ

ที่มา
http://thaionlytravel.blogspot.com
http://travel.kapook.com

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อาหารริมทะเลแสนอร่อยที่ The Glass House

The Glass House ที่เมืองแห่งการท่องเที่ยวพัทยานี้มีร้านอาหารริมทะเลที่น่าใช้เป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจไม่แพ้ที่พักชั้นนำอื่นๆเลยก็คือ The Glass House ที่นี้เราจะได้พบกับร้านสุดเก๋ในเรือนกระจกสุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ที่ให้บรรยากาศของความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี

บวกกับฉากวิวทิวทัศที่มีต้นสนเป็นพื้นหลัง และยังมีตุ๊กตาคิวปิด เฟอร์นิเจอร์ไม้และหมอนหนุนแสนสบายสไตล์วินเทจให้เราได้พักผ่อนได้อย่างสบายใจ ดูแล้วน่านั่งไปเสียแทบทุกมุมเลยก็ว่าได้

ส่วนเรื่องอาหารนั้นที่นี้ก็มีทีเด็ดเหมือนกัน นอกเหนือจากปลากระพงทอดน้ำปลาและปูนึ่งแล้ว ยังมีอาหารยูโรเปี้ยนแบบไม่เหมือนใคร ชนิดว่าหยิบอะไรต่อมิอะไรมาใส่ลงไป อย่าง ลาบปลาแซลมอลที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะ เชฟหั่นปลาเป็นลูกชิ้นเต๋า เคล้าเม็ดข้าวคั่ว เครื่องลาบ ให้รสเค็ม เปรี้ยว เผ็ด อร่อยอย่าบอกใคร ส่วนของหวานก็มีเฉาก๊วยนมสดก็ให้ความรู้สึกสดชื่นใจอย่างมากเมื่อได้ทาน แวะมาที่นี้ได้เลยรับรองสะบายจนไม่อยากกลับเลยล่ะ

The Glass House
ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เดินทางจาก ถ.สุขุมวิท เลี้ยวซ้ายเข้าซอยฝั่งตรงข้ามโรงระครอลังการ อยู่ถัดจากปั๊มเชลล์ไปหน่อยๆ โทร 0-3825-5922
เมนูอาหารริมทะเลที่แนะนำ : ปลากระพงทอดน้ำปลา , ลาบปลาแซลมอล ,ส้มตำปลาแซลมอน เฉาก๊วยนมสด Frozen Blue Magarita
ราคาเริ่มต้นที่ : 80 บาท Up
เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 11.00 - 24.00 น.
www.glasshouse-pattaya.com

อาหารริมทะเล ilovetogo.com

อาหารริมทะเล th.tripadvisor.com

ที่มา Pocket Guide เที่ยวกินริมทะเล

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไปเที่ยวที่ภูเก็ตกันเถอะ

นี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของโปรแกรมท่องเที่ยวที่เดินทางจากภูเก็ตนะคะ เที่ยวอ่าวพังงา ไปกับเรือใหญ่ ไปนั่งเรือแคนนูเที่ยว เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งเรือสปีทโบ๊ท หรือคนชอบนั่งชิวๆ กินลม ชมบรรยากาศสองข้างทางที่อ่าวพังงา

เริ่มต้นก่อนเดินทางด้วยการทักทาย แนะนำตัวให้รู้จักกันก่อนจ๊า นั่งชมวิวระหว่างรอเวลาจ๊ะ.. เรือออกตอน 9.30  เรามาพร้อมกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถ่ายรูปชมบรรยากาศกันก่อน ได้เวลาแล้ว... ลุย เดินผ่านอากาศดีๆ ลมพัดสบายๆ ไปขึ้นเรือ

เรือพร้อม คนพร้อม แคนนูพร้อม ไปเลยค่ะ เรือออกตรงเวลา 9 โมงครึ่ง... ขนมพร้อม น้ำพร้อม ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องแบก ระหว่างทาง นั่งเพลินๆ ถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ ลงมาชมบรรยากาศเรือด้านล่างบ้าง นั่งสวีทรับลม หลังเรือ วันนี้ฟ้าสวยม๊าก ก กก ค่ะ จุดแรกที่จะลงวันนี้คือ เขาพิงกัน - เกาะปันหยีค่ะ... เปลี่ยนลงเรือหางยาวไปเที่ยวกัน


ร้านค้าขายของที่ระลึก.. ราคากลางๆ ไม่แพงมาก เลือกชมได้นะคะ เด็กๆ ชอบมาก เล่นน้ำก่อนเพื่อนเลย ก่อนลงแคนนูกัน ทานข้าวกันก่อนนะคะ หลังอาหารแคนนูพร้อม คนพร้อม

จุดแรกที่ลงกันวันนี้ คือโซนเกาะห้องค่ะ ชิวมากๆ จริงๆ คนพายแคนนูตามใจสุดๆ อยากถ่ายรูปด้วยกัน ก็ช่วยพายมาให้ อิอิ อีกจุดหนึ่งของอ่าวพังงา ที่เราได้พายเรือแคนนูเล่นกันเอง เด็กๆ ก็พายได้นะคะ หลังเหนื่อยกันแล้ว เติมพลังด้วยแตงโมหวานฉ่ำ หลังจบทริป เดินทางกลับถึงท่าเรือประมาร 16.30 น. เย็นๆแบบนี้ ถ่ายรุปสวยดีนะคะ บ๊าย บาย ทริปล่องเรือแคนนูเที่ยวอ่าวพังงา แบบไปเช้าเย็นกลับ

จบทริปไปแบบประทับใจอีก หนึ่งวันจ๊ะ.... มาเที่ยวภูเก็ตแล้ว อย่าลืมไปเที่ยวอ่าวพังงากันด้วยนะคะ ไปนั่งเรือแคนนู ชมวิวกันแบบชิวๆ ไม่เหนื่อยมาก แต่สนุก และสบายสุดๆค่ะ ทริปทัวร์สนุกๆ แบบเป็นกันเองแบบนี้ ไปกับเรานะคะ www.okalitours.com

ยินดีแนะนำโปรแกรมเที่ยวด้วยความจริงใจ เพราะเราเข้าใจคนชอบเที่ยวเหมือนกันน๊า

ที่มา  kasineel.exteen.com

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ชิมของอร่อยจากภูเก็ตกับร้านอาหารท้องถิ่นรสเด็ด

ร้านอาหารท้องถิ่นของภูเก็ต

อาหารเช้า

ขนมจีบ ติ่มซำ
อาหารเช้าของภาคใต้
ปัจจุบันมีร้านติ่มซำให้บริการอาหารเช้าทุกจังหวัดทางใต้ ที่ ภูเก็ต จัดเป็นอาหารเช้าแบบยอดนิยม มีบริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 10 โมงเช้า ติ่มซำจะใส่ไว้ในถ้วยโลหะหรือถ้วยน้ำจิ้มขนาดเล็ก วางเรียงกันอยู่ในลังถึง (วิธีนี้ประหยัดหม้อนึ่ง) ไปทานติ่มซำ ไม่ต้องสั่ง พนักงานจะยกติ่มซำประเภทต่างๆ มาวางบนโต๊ะ ลูกค้าก็เลือกทานตามใจชอบ อันใหนไม่ชอบก็คืนได้ พอทานพร่องไปทางร้านก็ยกมาเติมให้
แนะนำให้ลองทานติ่มซำกลุ่มที่ทำ จากลูกชิ้นปลา เพราะเป็นอาหารท้องถิ่นของภูเก็ต ทำจากปลาทะเลสด ที่ภาคกลางจะไม่มี นอกจากนั้นบางร้านจะมีเนื้อปลาเก๋านึ่งซีอิ้วด้วย


ขนมจีบ ติ่มซำ shura.exteen.com

• จ่วนเฮี้ยง
• หลาน พูนผล 7
• บุญรัตน์
• ติ่มซำสามกอง
• คู่ขวัญ
• ตาตั้ม ถนนวิชิตสงคราม
• ติ่มซำตลาดบางเหนียว

ขนมจีน



ขนมจีนปักษ์ใต้ มีผักแนมเยอะ
มีน้ำยาปักษ์ใต้ น้ำพริก แกงใตปลา แกงเนื้อ แกงไก่ แกงปู .......
นิยมทานพร้อมกับ ห่อหมกปลาปักษ์ใต้ และ ลูกชิ้น(ทอดมันปักษ์ใต้)

ร้านขนมจีนที่มีชื่อเสียง
• ป้ามัย
• แม่ติ่ง
• พี่รีย์
• ขวัญ
• ขนมจีนข้างศาลเจ้าชิดเชี่ยว
• ขนมจีนสามกอง

ร้านขนมจีนป้ามัย แม่ติ่ง และ ป้ารีย์ เป็นพี่น้องกัน ป้ารีย์เป็นลูกสาวป้ามัย ส่วน ร้านป้ามัยและแม่ติ่ง เป็นลูกสะใภ้ป้ามัย

หมี่ซั่วน้ำ (หมี่ซั่วซุปซี่โครงหมู)



หมี่ซั่วเป็นเส้นหมี่ที่ทำจากแป้งสาลี (ถ้าใส่ไข่ไก่ก็จะกลายเป็นบะหมี่) ส่วนเส้นหมี่ทั่วไปจะทำจากข้าวเจ้า หมี่ซั่วที่ภูเก็ตเป็นของคนจีนฮกเกี้ยนทำ จะมีขนาดของเส้นหมี่ซั่วเล็กกว่าหมี่ซั่วทั่วๆ ไป
ชาว ภูเก็ตจะทานหมี่ซั่วแบบน้ำเท่านั้น ในขณะที่ทั่วๆไปจะทานหมี่ซั่วผัด หมี่ซั่วน้ำเป็นอาหารของชาวจีนฮกเกี้ยน จะมีอยู่ในเมืองที่มีชาวจีนฮกเกี้ยน เช่น สิงห์โปร์ ปีนัง ภูเก็ต ย่างกุ้ง(เมียนม่า) หมี่ซั่วน้ำจะเป็นเส้นหมี่ซั่วใส่ไปในซุปซี่โครงหมู พร้อมทั้งไข่ไก่ด้วยนิยมทานเป็นอาหารเช้า มีขายตามร้านอาหารเช้าทั่วไป

ข้าวมันไก่
ข้าวมันไก่ที่ภูเก็ต จะเป็นแบบข้าวมันไก่รวมมิตร ใส่หน้าทุกอย่าง

ข้าวมันหน้า ไก่ตอน หมูแดง หมูกรอบ ราดน้ำจิ้ม

ร้านแนะนำ

โกต้า ซอยสุรินทร์ วงเวียนหอนาฬิกา
• โกดำ ย่านสามกอง
• โกชัย ย่านหล่อโรง


โรตี



โรตี ทานกับแกงเนื้อ-ไก่ แกงมัสมั่นเนื้อ-ไก่-แพะ-ปลา พร้อมทั้ง ไข่ดาว จัดเป็นอาหารเช้าของชาวภูเก็ตด้วย โดยร้านจะมีบริการ เช้า – เที่ยง
• ภูเก็ตมุสลิม สี่แยกแถวน้ำ
• โรตีเจ้าฟ้า


อาหารว่าง
เป็นอาหารมื้อบ่าย และ มื้อดึก ชาวภูเก็ตทานอาหาร 5 มื้อต่อวัน เช้า เที่ยง บ่าย ค่ำ ดึก

หมี่ฮุ้นผัด


หมี่ฮุ้นเป็นเส้นหมี่ของชาวภูเก็ต ที่มีเส้นขนาดใหญ่กว่าเส้นหมี่ทั่วๆ ไป หมี่ ฮุ้นผัดเป็นการนำเส้นหมี่ภูเก็ตนี้มาทำการผัดด้วยน้ำมันและน้ำซุปจากกระดูก หมู ผัดจนเส้นหมี่ดูดซับน้ำซุปเข้าไปในเส้นหมี่ ทำให้เส้นหมี่มีรสชาติความหวานจากซุปกระดูกหมู ตอนผัดก็จะปรุงรสด้วยซีอิ้วขาวและซีอิ้วดำเล็กน้อย เวลาทานจะโรยหน้าหมี่ฮุ้นด้วยหอมเจียวและใบกุ๋ยช่าย และจะทานร่วมกับน้ำซุปซี่โครงหมู

• หมี่ฮุ้น ซอยสุ่นอุทิศ
• หมี่ฮุ้น-ตลาดหล่อโรง
• หมี่ฮุ้น-บางเหนียว


หมี่ฮกเกี้ยน



หมี่ ฮกเกี้ยนจะเป็น บะหมี่เหลืองเส้นขนาดใหญ่ ผัดกับหมู กุ้ง ปลา ปลาหมึก หอยนางรม พร้อมทั้งเติมน้ำซุปเวลาผัด โดยให้น้ำซุปนี้ซึมเข้าไปในเส้นบะหมี่ ปรุงรสด้วยซีอิ้วดำ ใส่ผักกวางตุ้ง (บางร้านจะใส่ผักบุ้งไทยด้วย) เวลาทาน จะโรยหน้าบะหมี่ด้วยหอมเจียวและกากหมู พร้อมกับมี หอมแดงซอย และใบกุ๋ยช่าย แนม

หมี่ฮกเกี้ยนผัด จะมีอยู่ 4 แบบ
หมี่ผัด – บะหมี่เหลืองผัด
บี้ฮุ้นผัด – เส้นหมี่(เส้นขนาดใหญ่)ผัด
ก๋วยเตี๋ยวผัด – เส้นใหญ่ผัด
บี้ฮุ้นหมี่ผัด – เส้นหมี่ และ บะหมี่ ผัดรวมกัน

ร้านหมี่ฮกเกี้ยนผัดที่มีชื่อเสียง ได้แก่

• หมี่ต้นโพธิ์ วงเวียนหอนาฬิกา
• อ่าวเก บะหมี่ฮกเกี้ยน พูนผล 3
• หมี่ฮกเกี้ยนถนนถลาง
• หมี่ฮกเกี้ยน-ลกเที้ยน แยกเฉลิมตัน
• โกตี่ บางเหนียว
• โกลา บางเหนียว
• หมี่ฮกเกี้ยนผัดถนนตะกั่วทุ่ง บางเหนียว
• เจ๊น้อย-หมี่สะปำ
• หมี่ฮกเกี้ยนผัดทุ่งทอง กะทู้



หมี่เชก – หมี่ฮกเกี้ยนน้ำ


หมี่ เหลืองฮกเกี้ยนน้ำ เป็นหมี่น้ำ ใช้เส้นบะหมี่ฮกเกี้ยนขนาดใหญ่ ใส่กุ้งต้ม ใบกุ๋ยช่าย จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปรสดุ้งที่ทำจากกระดูกหมูและเปลือกกุ้งต้ม

ร้านที่มีชื่อเสียง
• จิรายุวัตน์ ที่ โรงภาพยนต์เพิร์ล
• สมจิตต์ หมี่ฮกเกี้ยนน้ำ วงเวียนหอนาฬิกา


บะหมี่ เย็นตาโฟฮกเกี้ยน



• แป๊ะเถว
• หมี่โกล้าน ลกเทียนเจ้าเก่า หมี่เกี้ยว ถนนสตูล

โลบะ

รวม มิตรของทอด ประกอบไปด้วย หัวหมู เครื่องในหมู ได้แก่ หัวใจ ปอด ใส้หมู นำมาพะโล้ก่อน แล้วนำมาทอด รวมทั้ง เต้าหู้ เต้าหูยัดใส้ กุ้งทอด แฮ่กึ้นหมู พร้อมกับน้ำจิ้มรสมะขามเปียก
ร้านโลบะที่มีชื่อเสียง
• เบ่งสองโลบะ สามกอง-ถนน bypass
• โลบะบางเหนียว วัดคุณชี
• โลบะแม่ย่านาง
• โลบะลกเที้ยน
• โลบะข้างโรงเรียนเทศบาลบางเหนียว


ปอเปี้ยะสด(ฮกเกี้ยน)



ใส้เป็นมันแกวผัด ใส่ปู หมูแดง ปรุงรสด้วยซอสรสบ๊วย (ตีเจียว) ซอสนี้ก็เป็นของชาวฮกเกี้ยน
• ปอเปี้ยะสด-ลกเที้ยน
ปอเปี้ยะสด-ตลาดหล่อโรง
• ปอเปี้ยะสด-โรงเรียนเทศบาลบางเหนียว


โอวต้าว-หอยนางรมทอด



หอยนางรมทอด ใส่เผือก อาหารจีนฮกเกี้ยน

ร้านที่มีชื่อเสียง
• โอวต้าวจี้เปี่ยน
• โอวต้าวบางเหนียว
• แป๊ะถาว โอวต้าว ตลาดเกษตร
• โกจ้อง โอวต้าว วิลลาดาวรุ่ง


ลูกชิ้น ( ทอดมัน)



ชาวภูเก็ตเรียกทอดมันว่า ลูกชิ้น
ลูกชิ้น หรือ ทอดมันที่ภูเก็ตจะใส่ผักมะพร้าวขูด ส่วนทอดมันของภาคกลางจะใส่ถั่วฝักยาว เครื่องแกงลูกชิ้นจะเป็นเครื่องแกงเผ็ดใต้ซื่งจะใส่ขมิ้นไปด้วย รสชาติลูกชิ้นจะจัดจ้ากว่า เพราะเครื่องแกงใต้จะเผ็ดกว่าเครื่องแกงภาคกลาง นอกจากนั้น ลูกชิ้นจะทานเลย ไม่ต้องมีน้ำจิ้ม แบบทอดมันภาคกลาง

• ลูกชิ้นข้างโรงเรียนเทศบาลบางเหนียว

อื่นๆ

• น้ำเต้าหู้สามกอง

อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
ร้านอาหารที่มีฝีมือทางด้านอาหารปักษ์ใต้ บางร้านก็จะเชี่ยวชาญอาหารจีนด้วย เช่นร้าน นายยาวและปลาหมอสี

• ครัวไพลิน อาหารท้องถิ่นภูเก็ต อยู่ที่น้ำตกกะทู้
• ไชโยซีฟู้ด อาหารทะเล อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
หมอมูดง อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• ป่าหล่ายซีฟู้ด อาหารทะเล อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• กันเอง@Pier ห้าแยกฉลอง อาหารทะเล อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• ระย้า อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• ครัวสะปำ อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• ครัวนิยม อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• น้ำย้อย อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• ย้อยโภชนา อาหารท้องถิ่นภูเก็ต อาหารไทย ข้าวต้ม
• ปลาหมอสี อาหารจีน อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• นายยาว อาหารจีน อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• แพอาหารทะเลที่แหลมหิน มีอยู่ หลายแพ อาหารทะเล
- แพครูวิทย์
- บังมุด
- บังอิดซีฟู้ด
- บังแกนซีฟู้ด
• โกตี๋ สังกะสี อาหารท้องถิ่นและตามสั่ง ย่านสามกอง
• ครัวยิบซี เกาะสิเหร่ อาหารทะเล อาหารท้องถิ่นภูเก็ต
• บางแปซีฟู้ด อาหารท้องถิ่นภูเก็ต

อาหารนานาชาติ
• La Promenade โรงแรม Phuket Yatch Club
• มิคาโดะ อาหารเกาหลี

ที่มา
คุณ swin - bloggang.com

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจังหวัดภูเก็ตที่น่าสนใจ

หมู่บ้านชาวเล
ชาวเลหรือชาวน้ำ หรือชาวไทยใหม่ เป็นชนกลุ่มน้อยของไทย อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ตามเกาะในมหาสมุทรอินเดีย ในเกาะภูเก็ตมีชาวเลอาศัยอยู่ที่หาดราไว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต ประมาณ 17 กิโลเมตร และที่เกาะสิเหร่บริเวณแหลมตุ๊กแก

วัดฉลอง
อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 8 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุรกุล เลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต มีรูปหล่อของหลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อช่วง ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวภูเก็ตทั่วไป

เที่ยวภูเก็ต eakkaluk18.blogspot.com

อ่าวฉลอง
อยู่ห่างตัวเมือง 11 กิโลเมตร ทางทิศใต้ของเกาะภูเก็ตไปตามทางที่ไปหาดราไว เมื่อถึงห้าแยกฉลองเลี้ยวซ้ายประมาณ 1 กิโลเมตรถึงอ่าวฉลอง มีสะพานไม้ทอดยาวไปในทะเล ชายหาดเป็นรูปโค้งยาวเหยียดมองเห็นทิวมะพร้าวริมหาดเอนลู่ออกทะเล ทะเลบริเวณนี้ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ เพราะหาดเป็นโคลน ที่อ่าวฉลองนี้นักท่องเที่ยวจะเช่าเรือไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ หรือเช่าไปตกปลาได้

เกาะแก้ว
อยู่ห่างจากหาดราไวประมาณ 3 กิโลเมตร นั่งเรือจากหาดราไวประมาณ 30 นาที มีหาดทรายและธรรมชาติใต้น้ำสวยงามมาก บนเกาะมีรอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่ด้วย

ตึกสมัยเก่า
ในตัวเมืองภูเก็ตส่วนมากเป็นตึกสมัยเก่าแบบยุโรป สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ๆ ตึกสมัยเก่าเหล่านี้ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนด้วยจึงเรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบซิโน-โปรตุกีส ลักษณะตึกสมัยเก่าของภูเก็ตนั้นจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก ปัจจุบันจะหาดูได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระบี่ นอกจากนี้ยังมีตึกโบราณที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ศาลจังหวัดภูเก็ต และธนาคารนครหลวงไทย เป็นต้น

เกาะสิเหร่
เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองรวม 4 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันนี้ถือเป็นพื้นที่อันเดียวกับเกาะภูเก็ต มีคลองเล็กๆ ชื่อคลองท่าจีนคั่นเท่านั้น ประชากรที่เกาะสิเหร่นี้ส่วนหนึ่งเป็นชาวเล หรือชาวน้ำ ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในจำนวนชาวเลที่อาศัยอยู่ในเกาะภูเก็ต เกาะสิเหร่ เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์มีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่อยู่บนยอดเขา ชายหาดไม่เหมาะสำหรับการการเล่นน้ำ พื้นทรายมีโคลนปน

หาดแหลมกาใหญ่
เป็นหาดเล็กๆ ห่างจากตัวเมือง 16 กิโลเมตร จากห้าแยกฉลอง ใช้ทางหลวง 4024 ทางเข้าอยู่ตรงข้ามวัดสว่างอารมณ์ บริเวณหาดมีเรือให้เช่าไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะเฮ เกาะบอน เป็นต้น

หาดในหาน
เป็นหาดที่อยู่ถัดจากแหลมพรหมเทพขึ้นไปทางทิศเหนือ อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 18 กิโลเมตร มีทางไปได้หลายทาง จะไปจากหาดราไวโดยผ่านหรือไม่ผ่านแหลมพรหมเทพก็ได้ หรือถ้ามาจากห้าแยกฉลองไปทางหาดราไวประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปบ้านใสยวน หนองหาน ประมาณ 4 กิโลเมตร ชายหาดในหานไม่ยาวนัก หาดทรายขาวสะอาด ด้านหลังของชายหาดเป็นบึง ชาวบ้านเรียกว่าหนองหาน ระหว่างทะเลและบึงมีเพียงหาดทรายของหาดในหานขวางกั้นอยู่เท่านั้น ในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม คลื่นจะแรงมาก ไม่ควรลงเล่นน้ำเพราะอาจเกิดอันตรายได้

อ่าวเสน
เป็นอ่าวเล็กๆ ติดกับหาดในหานไปทางขวา ผ่านโรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ เป็นชายหาดเล็กๆ ที่สงบ มีโขดหินน้อยใหญ่ หาดทรายขาวสะอาด

จุดชมวิว
จากหาดในหานไปหาดกะตะน้อยตามเส้นทางถนนรอบเกาะ จุดชมวิวจะอยู่ระหว่าง 2 หาดนี้ จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งอ่าวถึง 3 อ่าว คือ อ่าวกะตะน้อย อ่าวกะตะ และอ่าวกะรน ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก

เขารัง
เป็นเนินเขาเตี้ยๆ อยู่หลังตัวเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รถยนต์สามารถขึ้นไปจนถึงยอดเขา เทศบาลจัดเป็นสวนสุขภาพและสวนสาธารณะ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และชมทิวทัศน์ของเมืองภูเก็ต จากยอดเขาจะแลเห็นตัวเมืองภูเก็ต ทะเลกว้าง เกาะเล็ก เกาะน้อย รวมทั้งทิวทัศน์ของเกาะทั้งใกล้และไกล

สะพานหิน
สถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในตัวเมือง อยู่สุดถนนภูเก็ตซึ่งยื่นลงไปในทะเลเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์หลัก 60 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่กัปตันเอ็ดเวิร์ด โธมัสไมล์ ชาวออสเตรเลียผู้นำเรือขุดแร่ลำแรกมาใช้ขุดแร่ดีบุกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2452

อ่าวกะตะ
อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 17 กิโลเมตร จากตัวเมืองภูเก็ตเมื่อถึงห้าแยกฉลองเลี้ยวขวาไปตามทางตามถนนหมายเลข 4028 อ่าวกะตะแบ่งออกเป็น 2 อ่าวคือ อ่าวกะตะใหญ่ กับอ่าวกะตะน้อย ทั้งสองอ่าวมีหาดทรายและชายหาดที่สวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ และใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำ เนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปูซึ่งอยู่ด้านหน้าหาดกะตะ ปัจจุบันหาดกะตะ เป็นหาดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิงต่างๆ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว

หาดราไวย์
อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 17 กิโลเมตร เส้นทางจาห้าแยกฉลองไปสู่หาดราไว (ทางหลวง 4024) เป็นเส้นทางที่สวยที่สุดสายหนึ่งของภูเก็ต หาดราไว เป็นหาดที่สวยงามและมีชาวเลอาศัยอยู่

แหลมพรหมเทพ
อยู่ห่างจากหาดราไวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า บริเวณแหลมพรหมเทพเป็นส่วนที่สวยงามที่สุดส่วนหนึ่งของเกาะภูเก็ต เหนือแหลมพรหมเทพเป็นที่ราบสำหรับจอดรถซึ่งอยู่บนหน้าผาสูงริมทะเล จากหน้าผานี้จะมองเห็นแหลมพรหมเทพทอดยาวออกไปในทะเล จะเห็นเกาะหลายเกาะรวมทั้งเกาะแก้ว ทางด้านขวามือจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหานชัดเจน จากบนหน้าผามีทางเดินลงเขาไปจนถึงสุดแหลมพรหมเทพได้ เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้งดงามยิ่งนัก

อ่าวกะรน
อยู่ถัดจากอ่าวกะตะขึ้นไปทางเหนือมีเพียงเนินเขาเตี้ยๆ คั่นอยู่เท่านั้น แต่ถ้าจะไปที่กลางอ่าวกะรนและหมู่บ้านกะรน มีถนนแยกจากอ่าวกะตะไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร อ่าวกะรนใหญ่กว่าอ่าวกะตะ มีชายหาดยาวเหยียด เหนือชายหาดเป็นเนินทรายสูงๆ ต่ำๆ มีสนทะเลต้นใหญ่ๆ และต้นตาลขึ้นเรียงรายอยู่โดยทั่วไป หาดทรายที่อ่าวกะรนขาวสะอาดและละเอียดมาก

หมู่บ้านไทยและสวนกล้วยไม้ภูเก็ต
อยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร บนถนนเทพกษัตรีย์ ภายในมีการแสดงศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน การแสดงของช้าง ฟาร์มกล้วยไม้ ฯลฯ 

สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต Phuket Aquarium
เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์น้ำจืด และสัตว์ทะเล มีมากกว่า 100 ชนิด
โดยการจัดแสดงในตู้ทรงรูปแบบและขนาดต่างๆและชมการแสดงสัตว์ทะเลในตู้อุโมงค์ที่จุน้ำทะเล
200 ตัน และตู้ขนาดใหญ่จุน้ำทะเล 140 ตัน แสดงสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ ต่างๆมากมาย
ชมการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อัตราค่าเข้าชม คนไทย

ผู้ใหญ่ 50 บาท
เด็ก 20 บาท
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่
0-7639-1126 ตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของแหลมพันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ phuketaquarium.org
โทร. 0-7639-1126  แฟกซ์ 0-7639-1406

สวนผีเสื้อและอควาเรียมภูเก็ต
ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร เดินทางไปตามถนนเยาวราชแล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกหมู่บ้านสามกองไปเล็กน้อย เป็นสถานที่รวบรวมและอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตในเขตร้อนจำพวกผีเสื้อ แมลง ปลา และปะการัง โดยจัดสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.30 น.

ที่มา phuketislandtour.com

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มารู้จักกับอุทยานแห่งชาติผาแต้มกันดีกว่า

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียมอำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานีประกอบด้วย สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติ มากมายเช่นผาชัน น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง ถ้ำปาฏิหารย์ ภูนาทาม ในอดีตชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินใน บริเวณใกล้เคียง พื้นที่ป่าภูผา

น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่าดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อว่าผาแต้ม เป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านี้มี ความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไป มักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 

ผาแต้ม มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อเมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาภาควิชา มนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ได้มาทำการสำรวจและค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม จึงได้เสนอต่อกองอุทยานแห่งชาติกรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้มเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้รับการประกาศให้เป็น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทยและถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติ แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและ ประเทศลาวเป็นแนวเขต อุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุดทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม thai-tour.com

ทางเข้าของแกรนแคนยอนแม่น้ำโขง มีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข  ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันต่างๆนาๆ บ้าง ก็ว่า แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจ ประทับใจความงามของสามพันโบก จึงได้ ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติม  เมื่อมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองคำ  จึงให้สุนัข เฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมา  เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติ เกิดความ โลภกลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่น  สุนัขผู้ภักดีก็เฝ้ารออยู่ตรง นั้นจนตายในที่สุด บางตำนานก็ว่าลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุดเพื่อให้ เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่ง  และได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้า ทางเข้าระหว่างการขุดกระทั่งสุนัขได้ตายลงกลายเป็นหินรูปสุนัขในที่สุด

ที่มา paiduaykan.com

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

ท่องเที่ยวกับอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง


อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของ Car Camp

การท่องเที่ยวนั้นสามารถไปได้หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะไปด้วยรถยนต์ รถไฟ เดินเท้า หรือนั่งเครื่องบินไปก็ตาม วันนี้จะมากล่าวถึงการเตรียมตัวออกเดินทางสำหรับนักผจญภัยที่ชอบใช้รถยนต์ส่วนตัวไปท่องเที่ยวกัน การเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยรถส่วนตัวนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไปด้วยเพื่อความสะดวกสะบายของตัวเราเอง ไปดูกันว่าอุปกรณ์ที่ว่านี้อะไรบ้าง

อุปกรณ์การเดินทางที่จำเป็น
การเดินทางในรูปแบบ Car Camp เน้นการพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก การเตรียมตัวจึงมีเรื่องที่ต้องคำนึงหลายประการด้วยกัน ได้แก่...

เครื่องนำทางจีพีเอส
ถือเป็นเครื่องนำทางที่ได้รับความนิยม เพราะสร้างความสะดวกสบายในเรื่องเส้นทางได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าจะต้องมี เนื่องจากมีเส้นทางจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ปรากฎในจีพีเอส โดยเฉพาะในเส้นทางป่าเขา ที่ห่างไกลจากความเจริญ

ซึ่งจีพีเอสเป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่เครื่องกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างของการเดินทาง เข้าทำนองถ้ามีได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แผนที่ทางหลวงยังถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ (ราคาถูกกว่าจีพีเอสหลายเท่า) ที่สำคัญที่สุด "ปาก" นี่แหละ คือเครื่องมือมาตรฐานที่สำคัญที่สุด เพราะไม่เคยพบว่า Error ไม่มีคำว่าล้าสมัย ยกเว้นคนปากไม่ดีเท่านั้นเอง

เดินทางท่องเที่ยว thairath.co.th

อุปกรณ์การนอน
เต็นท์ : ปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบและขนาด ควรเลือกเต็นท์ขนาดใหญ่ เพื่อความสะดวกสบาย กางง่าย มีฟลายชีตเพื่อป้องกันฝนและน้ำค้าง และที่สำคัญควรซื้อผ้ายางสำหรับรองพื้นเต็นท์ เพราะจะช่วยป้องกันความชื้นที่จะขึ้นมา และง่ายต่อการทำความสะอาดพื้นเต็นท์หลังการใช้งาน

ถุงนอน : อย่าไปเครียดหรือวิตกกับเรื่องระดับองศาฯ ของการป้องกันความหนาวของถุงนอนมากเกินไป เพราะหากถุงนอนมีระดับบางเกินไป ก็เสริมด้วยผ้าห่มนวมได้

ที่รองนอน : นอกจากทำให้นิ่มแล้ว ยังช่วยป้องกันความชื้นและความเย็นจากพื้น ทะลุเข้ามาถึงชั้นถุงนอนและหลัง

เปลนอน : เป็นออปชั่นเสริมสำหรับการพักผ่อน หรืออาจจะใช้นอนอย่างจริงจังก็ได้

โต๊ะ – เก้าอี้ : เลือกใช้โต๊ะ-เก้าอี้สนามขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ที่สามารถรับน้ำหนักได้หลายระดับ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้ผ้าปูแทนได้

อุปกรณ์หุงหาอาหาร
การตัดสินใจว่าจะทำอาหารกินเองหรือซื้อกิน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ที่ไป บางแห่งอาจมีร้านอาหารให้บริการ แต่บางพื้นที่อาจไม่มีเลย การทำอาหารกินเองอาจมีความยุ่งยากในหลาย ๆ เรื่อง แต่ก็มีส่วนดีในการทำกิจกรรมร่วมกัน สามารถเลือกรายการอาหารได้ด้วยตัวเอง และประหยัด ปัญหาที่เกิดขึ้นมักไม่ใช่ตอนทำ แต่เป็นตอนท้ายว่าใครจะเป็นคนล้างมากกว่า

อุปกรณ์เครื่องครัว : ควรคำนึงเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ย่อยสลายได้ง่าย ส่งผลข้างเคียงกับธรรมชาติน้อยที่สุด

เตาแก๊ส : เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่รถเข้าถึง จึงควรใช้เตาแก๊สปิกนิกหรือเตาแก๊สที่ถังสามารถเติมแก๊สได้ เพื่อลดการใช้ฟืน แก๊สกระป๋องขนาดเล็กนั้น พกพาสะดวกสบายก็จริง แต่ก็มีปัญหาในเรื่องการทำลาย ที่ต้องใช้เวลาและความระมัดระวัง ซึ่งอาจจะเกิดผลกระทบต่อธรรมชาติก็ได้

อุปกรณ์ให้ความสว่าง
ลดการใช้แสงสว่างจะตะเกียงแก๊ส เนื่องจากปัจจุบันมีอุปกรณ์ให้แสงสว่างจากไฟฉายขนาดใหญ่ หรือใช้แหล่งกำเนิดไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์แทน

สิ่งจำเป็นอื่น ๆ : เช่น ยาประจำตัว ยากันยุง กระดาษทิชชู่ทั้งแบบแห้งและแบบเปียก ไฟฉายขนาดเล็ก กระติกน้ำแข็ง ถุงขยะ ถังน้ำสำรองขนาดใหญ่ เชือกขนาดเล็กสำหรับทำราวตากผ้า ฯลฯ

ที่มา travel.kapook.com